Tuesday, February 18, 2020
Monday, February 17, 2020
Sunday, February 16, 2020
การบัญชีเบื้องต้น (หมวดบัญชี)
หมวดที่ 1 สินทรัพย์
(Assets) หมายถึง สิ่งที่มีตัวตน
หรือไม่มีตัวตนอันมีมูลค่า
ซึ่งบุคคลหรือกิจการเป็นเจ้าของหรือสามารถถือเอาประโยชน์ได้จาก
กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ สิทธิเรียกร้องมูลค่าที่ได้มา
รายจ่ายที่เกิดสิทธิ และรายจ่ายของงวดบัญชีถัดไป
สินทรัพย์สามารถแบ่งออกเป็น 2
ประเภท ได้แก่
1.
สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) หมายถึง
สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง สามารถจะเปลี่ยนเป็นเงินสด เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร เป็นต้น
หรือสินทรัพย์อื่นที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็ว โดยปกติจะไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินรับ ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เป็นต้น
2. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non
– Current Assets) หมายถึง
สินทรัพย์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้โดยเร็วซึ่งมีระยะเวลามากกว่า 1
ปี เช่น เงินลงทุนระยะยาว เงินให้กู้ยืมระยะยาวและการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทต่าง
ๆ เป็นต้น สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) หรือเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตน
มีลักษณะการใช้งานที่คงทน และมีอายุการใช้งานนานเกินกว่า 1 ปี
เช่น ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ รถยนต์ เป็นต้น สินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Intangible
Assets) หมายถึง
สินทรัพย์ที่ไม่มีรูปร่างไม่สามารถจับต้องได้ทางกายภาพ
แต่สามารถตีราคาให้มีมูลค่าเป็นเงินตรา และถือกรรมสิทธิ์ได้ เช่น
เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ค่าความนิยม เป็นต้น
หมวดที่ 2 หนี้สิน (Liability)
หมายถึง
ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการที่ต้องจ่ายชำระคืนแก่บุคคลภายนอกในอนาคต
ภาระผูกพันดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตซึ่งการชำระภาระผูกพันนั้นคาดว่าจะส่งผลให้กิจการสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ
เช่น เจ้าหนี้การค้า เงินกู้ เงินเบิกเกินบัญชี เจ้าหนี้จำนอง เป็นต้น
หนี้สินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.
หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities) หมายถึง ภาระผูกพันที่กิจการต้องชำระคืนภายในระยะเวลา ไม่เกิน 1 ปี เช่น เจ้าหนี้การค้า
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร เงินกู้ยืมจากธนาคารระยะสั้น ตั๋วเงินจ่าย
เป็นต้น
2. หนี้สินไม่หมุนเวียน (Non – Current Liabilities) หมายถึง หนี้สินซึ่งมีระยะเวลาการชำระคืนเกินกว่า 1 ปี หรือเกินกว่ารอบระยะเวลาการดำเนิน
งานตามปกติของกิจการ เช่น เงินกู้ระยะยาว หุ้นกู้ พันธบัตรเงินกู้ เป็นต้น
หมวดที่ 3 ส่วนของเจ้าของ (ทุน) (Owner’s
equity) หมายถึง
ส่วนได้เสียคงเหลือในสินทรัพย์ของกิจการหลังจากหักหนี้สิน ทั้งสินออกแล้ว กรรมสิทธิ์ที่เจ้าของกิจการมีในสินทรัพย์ เรียกว่า
สินทรัพย์สุทธิ (สินทรัพย์ – หนี้สิน) ส่วนของเจ้าของกิจการแบ่งได้ 3 ประเภท
1.กิจการเจ้าของคนเดียว
2.ห้างหุ้นส่วน
3.บริษัทจำกัด
หมวดที่ 4 รายได้ income หมายถึง
ผลตอบแทนที่กิจการได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการตามปกติของกิจการรวมทั้ง ผลตอบแทนอื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานตามปกติ
รายได้แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท
ดังนี้
1.รายได้จากการขาย (Sale revenue) หมายถึง รายได้ที่เกิดจากการขายสินค้าหรือบริการอันเป็นรายได้จากการดำเนินงานตาม
ปกติ เช่น กิจการซื้อขายสินค้ารายได้ของกิจการ คือ รายได้จากการขายสินค้า
ส่วนกิจการให้บริการ เช่นซ่อมเครื่องไฟฟ้า รายได้ของกิจการ คือ รายได้ค่าซ่อม /รายได้ค่าบริการ
2.รายได้อื่น (Other incomes) หมายถึง รายได้ที่มิได้เกิดจากการดำเนินงาน
ตามปกติของกิจการซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่ใช้
รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ
หมวดที่ 5
ค่าใช้จ่าย expenses หมายถึง
ต้นทุนส่วนที่หักออกจากรายได้ในรอบระยะเวลาที่ดำเนินการงานหนึ่ง
ค่าใช้จ่ายสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ต้นทุนขาย
(Cost of sales) หมายถึง
ต้นทุนของสินค้าที่ขายหรือบริการที่ให้ กล่าวคือในกิจการซื้อเพื่อขาย
ต้นทุนของสินค้าที่ขายจะรวมราคาซื้อและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น
เพื่อให้สินค้าอยู่ในสภาพพร้อมที่จะขาย
ส่วนในกิจการผลิตเพื่อขายต้นทุนของสินค้าที่ขายคือ ต้นทุนการผลิตของสินค้านั้น ซึ่งประกอบด้วย
ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานและโสหุ้ยการผลิต
2. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
(Operating expenses) หมายถึง
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอันเองมาจากการขายสินค้าหรือบริการ
และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการบริหารกิจการอันเป็นส่วนรวมของการดำเนินงาน
3. ค่าใช้จ่ายอื่น (Other expenses) หมายถึง
ค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่จัดเข้าเป็นต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
เช่นดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้
ค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจขายสินค้า
จะประกอบด้วย ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายอื่น สำหรับธุรกิจขายบริการค่าใช้จ่ายจะประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายอื่นเท่านั้น
การบัญชีเบื้องต้น (ความหมายการบัญชี Accounting)
บัญชีเบื้องต้นสำหรับกิจการบริการ (มัธยมศึกษาตอนต้น)
สรุปความหมายการบัญชี Accounting
Subscribe to:
Posts (Atom)